ที่มาภาพ : http://www.thekitchn.com/mycological-society-of-san-fra-64386 |
เห็ด เป็นกลุ่มของเชื้อราที่มีวิวัฒนาการสูงกว่าราชนิดอื่นๆ
ไม่สามารถสังเคราะห์ด้วยแสงเองได้เนื่องจากไม่มีคลอโรฟิลล์ เจริญเติบโตบนพื้นดิน ขอนไม้ ซากพืช มูลสัตว์ ฯลฯ
ชอบอินทรียวัตถุสูง เป็นพวกที่ต้องการออกซิเจนมาก และอุณหภูมิปานกลาง(ประมาณ 25-40
องซาเซลเซียส) ชอบที่ที่มีความชื้นในดินสูงแต่ไม่ชอบน้ำขัง วงจรชีวิตของเห็ดทุกชนิดจะมีลักษณะคล้ายกัน
เริ่มจากการที่สปอร์ปลิวไปตามที่ต่างๆ หากไปตกในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะมีการเจริญเติบโตเป็นลักษณะของเส้นใย
กลุ่มของเส้นใยจะจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนให้เราเห็นเป็นดอกเห็ด เห็ดบางชนิดสามารถเลี้ยงเส้นใยจนเกิดดอกเห็ดได้บนอาหารวุ้นในหลอดทดลอง
เช่น เห็ดนางรม แต่บางชนิดแม้จะทดลองกันมากมายเพียงใด
ก็ไม่สามารถทำให้เกิดดอกเห็ดได้ เช่น เห็ดโคน เห็ดอานม้า
ส่วนประกอบต่างๆ ของเห็ด
ส่วนต่างๆ ของเห็ด |
ที่มาภาพ : http://ridge.icu.ac.jp , mushroom life cycle
1. ดอกเห็ด (Fruiting
body) รูปร่างของเห็ดแบ่งเป็น
- แผ่นเยื่อนุ่มแบบวุ้น เช่น เห็ดหูหนู
- ทรงร่ม เช่น เห็ดฟาง เห็ดโคน
- เป็นก้อนค่อนข้างกลม เช่น
เห็ดจาวมะพร้าว เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบ
2.หมวกเห็ด (Cap) เป็นส่วนประกอบปลายสุดของดอกที่เจริญเติบโตขึ้นไปในอากาศ
เมื่อดอกบานเต็มที่จะกางออก มีลักษณะรูปทรงเหมือนร่มกาง ขอบงุ้มลงหรือแบนราบ หรือกลางหมวกเว้าลงเป็นแอ่ง
มีรูปเหมือนกรวยปากกว้าง ผิวหมวก เห็ดด้านบนอาจจะเรียบ ขรุขระ มีเกล็ด (scales)
หรือมีขน แตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิดของเห็ด เนื้อของดอกเห็ดมีความหนาบางต่างกัน
อาจเหนียว หรือฉีกขาดได้ง่าย สีของเนื้อเห็ดภายในและภายนอก อาจเป็นสีเดียวหรือแตกต่างกัน
3.ครีบ (Gills)ด้านล่างของหมวกเห็ดมีครีบหรือซี่ เรียงเป็นรัศมีรอบก้านดอกห้อยแขวนลงมาจากเนื้อของหมวกเห็ดที่อยู่ตอนบน เห็ดบางชนิดมีครีบหมวกด้านในยึดติด หรือไม่ยึดติดกับก้านดอก ด้านนอกเชื่อมติดกับขอบหมวกสองข้างของครีบหมวกเป็นที่เกิดสปอร์ของดอกเห็ด แต่ละชนิดมีจำนวนครีบหมวกแตกต่างกัน และความหนาบางไม่เท่ากัน จำนวนครีบหมวกจึงใช้เป็นลักษณะประกอบการจำแนกเห็ดด้วย สีของครีบหมวกส่วนมากเป็นสีเดียวกับสปอร์ของเห็ด ซึ่งจัดเป็นลักษณะแตกต่างของเห็ดแต่ละชนิดโดยปกติมีสีขาว เหลือง ชมพู ม่วง น้ำตาลและดำ
เห็ดบางสกุลไม่มีครีบแต่จะมีรู (pore หรือ tube)หรืออาจมีลักษณะคล้ายหนาม(spine) แทนครีบที่จะมีสปอร์อยู่ภายใน บางชนิดสปอร์จะถูกฝังอยู่ในเนื้อเยื่อก้อนวุ้น เช่น เห็ดหูหนู หรือมีสปอร์เกิดอยู่ในเปลือกหุ้มที่เป็นก้อนกลม เช่น เห็ดเผาะ
4.ก้าน (Stalk) มีขนาดและความยาวแตกต่างกัน
ส่วนมากเป็นรูปทรงกระบอก บางชนิดมีโคน หรือปลายเรียวเล็ก ตอนบนยึดติดกับหมวกเห็ดหรือครีบหมวกด้านใน
ตอนล่างของเห็ดบางชนิดอาจมีเส้นใยหยาบรวมกันเป็นก้อนหรือเปลือกหุ้มโคน (volva)
ซึ่งมีลักษณะคล้ายถ้วยชาหงายรองรับอยู่ เช่น เปลือกหุ้มโคนในเห็ดฟาง
ฯลฯ บนก้านดอกตอนบนของเห็ดบางชนิดมีวงแหวน (ring) หรือเยื่อบาง
(ม่าน หรือ annulus) หุ้มอยู่โดยรอบ ก้านดอกเห็ดมีผิวเรียบ
ขรุขระ หรือมีขน หรือมีเกล็ด เมื่อถูกสัมผัสด้วยมือหรืออากาศอาจเปลี่ยนสีได้
ในเห็ดบางชนิดเนื้อเยื่อภายในก้านดอกอาจจะสานกันแน่นทึบ
นิ่ม แข็งหรือกรอบ หรือเป็นเส้นหยาบ หรืออาจสานกันเป็นเส้นใยหลวมคล้ายฟองน้ำ บางชนิดอาจมีรูกลวงยาวตลอด
หรือเกิดขึ้นเป็นบางส่วน เนื้อเยื่อก้านดอกเห็ดบางชนิดจะมีรสหวานกรอบและแมลงจะเข้าไปอาศัยกินอยู่ภายในจนเป็นรูพรุน
และเน่าเสียอยู่ภายในได้ เช่น ก้านดอกเห็ดหล่ม เห็ดร่างแห (Stinkhorn)
มีร่างแหสีขาวเป็นรูโปร่งคล้ายลูกไม้ห้อยแขวนลงจากเนื้อเยื่อใต้หมวกเห็ดคลุมอยู่รอบก้านดอก
ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของเห็ดชนิดนี้
5.เปลือกหรือเยื่อหุ้มดอก (Volva)
เป็นเนื้อเยื่อชั้นนอกสุดที่ห่อหุ้มดอกเห็ดทั้งดอกไว้ในระยะที่เป็นดอกอ่อน
ซึ่งมีในเห็ดบางชนิด เช่น เห็ดฟาง และในเห็ดพิษหลายชนิดในสกุล เมื่อดอกเห็ดขยายใหญ่ขึ้นเปลือกหุ้มตอนบนจะแตกออก
เพื่อให้หมวกเห็ดและก้านดอกยืดตัวชูสูงขึ้นมาในอากาศ ทิ้งให้เปลือกหุ้มอยู่ที่โคนก้าน
มองดูเหมือนก้านดอกเห็ดอยู่ในถ้วย
เปลือกหุ้มอาจมีเนื้อเยื่อหรือสีคล้ายคลึงหรือแตกต่างกับหมวกเห็ดแต่ส่วนมากมีสีขาวในเห็ดบางชนิดอาจมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนเห็ดฟางเพราะมีเนื้อเยื่อบางกว่า
เห็ดบางชนิดในสกุล Amanita ซึ่งอาจจะเป็นเห็ดพิษจึงเป็นการเสี่ยงที่จะเก็บเห็ดตูมมารับประทาน
เพราะยังไม่เห็นเปลือกหุ้มชัดเจน
6.แผ่นวงแหวน (Ring)
เป็นเนื้อเยื่อบางๆ
ยึดติดก้านดอกใต้หมวกเห็ดลงมาเล็กน้อยเป็นส่วนของเนื้อเยื่อห่อหุ้มครีบเมื่อดอกเห็ดยังอ่อน วงแหวนนี้อาจเลื่อนขึ้นลงได้ ไม่ยึดติดกับก้านดอกในเห็ดบางชนิด
7.กลุ่มเส้นใย (Mycelium)
ก่อนที่จะเป็นดอกเห็ดเราจะเห็นบริเวณนั้นมีเส้นใยราสีขาว
หรือ hypha คือเซลล์หลายเซลล์มาต่อกันเป็นเส้นใย แต่หากเส้นใยเหล่านี้ก่อตัวหรือรวมตัวกันเป็นก้อนใหญ่ขึ้น
เรียกเส้นใยรวมตัวกันอยู่นี้ว่า กลุ่มเส้นใย เห็ดบางชนิดจะมีเส้นใยรวมตัวเป็นก้อนแข็งอยู่ที่โคนก้านดอกหรือเป็นเส้นหยาบมองเห็นด้วยตาเปล่า
แต่บางชนิดมีเส้นใยละเอียดเล็กมาก มองไม่เห็นลักษณะดังกล่าว โดยปกติเส้นใยของเห็ดจะมีสีขาวนวลแทรกซึมอยู่ตามที่มันอาศัยอยู่
8.สปอร์เห็ด (Spore)
กลุ่มเซลล์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอวัยวะที่สร้างสปอร์(Basidia) บริเวณใต้หมวกของดอกเห็ดและใช้ในการขยายพันธุ์ของเห็ดรา เห็ดดอกหนึ่งสามารถสร้างสปอร์ได้จำนวนมากนับล้านๆ
สปอร์ มีขนาดเล็กมากมีหน่วยวัดเป็นไมครอนสปอร์จะปลิวหรือลอยไปในอากาศ เมื่อตกอยู่ในที่ที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม
เช่น มีอาหาร ความชื้น อุณหภูมิ ความเป็นกรด-ด่างที่เห็ดชนิดนั้นต้องการ
สปอร์จะงอกออกมาเป็นเส้นใย(hypha)ต่อไป
สารอาหารจากเห็ด
เห็ดแต่ละชนิดจะมีคุณค่าทางโภชนาการแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิดของเห็ด
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับผักนั่นคือ มีวิตามิน เกลือแร่ โดยโปรตีนในเห็ดจะมีคุณภาพดีกว่าในผัก
แต่ก็จัดเป็นโปรตีนพวกที่ไม่สมบูรณ์บางส่วน เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ ดังนั้น
การปรุงอาหารจากเห็ดให้เกิดประโยชน์
ต่อสุขภาพก็ควรมีส่วนผสมของเนื้อสัตว์และผักชนิดอื่นเข้าไปด้วย
คุณค่าทางอาหารของเห็ดและผักบางชนิดใน 100 กรัม |
ซีลีเนียม เป็นสารอาหารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระใกล้เคียงกับวิตามิน E ช่วยลดการเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง และโรคสำหรับผู้สูงอายุ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ
โพแทสเซียม เป็นสารอาหารที่ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ความสมดุลของน้ำในร่างกาย
การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทต่าง ๆ ในเห็ดจะมีโพแทสเซียมสูง โซเดียมต่ำ
วิตามิน B รวม ในเห็ดอุดมไปด้วยวิตามินบีรวม
ไรโบฟลาวิน ช่วยบำรุงผิวพรรณและการมองเห็น
ไนอะซิน ช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร และระบบประสาท
สรรพคุณของเห็ดแต่ละชนิด
เห็ดหอม |
- เห็ดหอม ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
และเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสและมะเร็ง ในเห็ดหอมมี กรดอะมิโนอยู่ถึง 21 ชนิด อุดมด้วยวิตามิน
A มีวิตามินบี 1 บี 2 สูงพอๆ
กับยีสต์ มีวิตามินดีสูงช่วยบำรุงกระดูกและมีปริมาณโซเดียมต่ำ
เหมาะสำหรับผู้เป็นโรคเกี่ยวกับไต นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม
ฟอสฟอรัส และเหล็ก จึงช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรงและช่วยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารได้อีกด้วย
เห็ดหูหนู |
- เห็ดหูหนู
เป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรต
สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้นรวมทั้งช่วยรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง
ช่วยบำรุงกระเพาะ
สมอง หัวใจ ปอด ตับ แพทย์แผนจีนใช้เป็นอาหารบำรุงไตให้แข็งแรง ลดไข้ แก้ไอ กระตุ้นการทำงานของลำไส้
ช่วยบำรุงร่างกาย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ กระจายโลหิต แก้ร้อนใน กระหายน้ำ
ต้มกับน้ำตาลกรวดจิบแก้ไอ
เห็ดหูหนูขาว |
เห็ดฟาง |
- เห็ดหูหนูขาว
ช่วยบำรุงปอดและไต
- เห็ดฟาง
วิตามินซี
จำนวนมาก(ไม่ควรรับประทานสด)ลดการติดเชื้อ สมานแผล ลักปิดลักเปิด โรคเหงือก
ลดอาการผื่นคัน มีสาร volvatioxin ชะลอและยับยั้งเซลล์มะเร็ง บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้ช้ำใน บำรุงตับ
เห็ดเข็มทอง |
- เห็ดเข็มทอง
ถ้ารับประทานเป็นประจำจะช่วยรักษาโรคตับ
กระเพาะและลำไส้อักเสบเรื้อรัง
ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งที่เยื่อบุช่องท้อง ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
เห็ดหลินจือ |
- เห็ดหลินจือ
มีสารสำคัญเบต้ากลูแคน
ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็ง คนญี่ปุ่นมักใช้ควบคู่กับการรักษาโรคมะเร็งและโรคผู้สูงอายุ
เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โรคความดัน
โลหิตสูง
สามารถรักษาโรคในระบบต่าง ๆ ในร่างกายได้ 3 ระบบ
1. ระบบทางเดินอาหารเช่น โรคกระเพาะ ท้องผูก ริดสีดวงทวาร
2. ระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการไอ แก้ปอดอักเสบ ภูมิแพ้
3. ระบบการไหลเวียนของเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ลดคลอเลสเตอรอล
เห็ดสกุลนางรม |
- เห็ดสกุลนางรม (นางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดนางรม เห็ดภูฎาน)
ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ลดน้ำตาลในเลือด
ปรับสภาพความดันโลหิต ลดการอักเสบ ยังยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย
เห็ดแชมปิญญอง |
- เห็ดกระดุมหรือแชมปิญญอง ช่วยในการย่อยอาหาร ความดันโลหิตสูง
และคลายความตื่นตระหนก แม่นมมีน้ำนมมากขึ้น ยังยั้งเซลล์มะเร็ง
และการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้
เห็ดหัวลิง |
- เห็ดหัวลิง เพิ่มความสามารถภูมิคุ้มกัน
และยับยั้งเซลล์มะเร็ง รักษาโรคแผลเรื้อรัง และอักเสบในกระเพาะ ในลำไส้ส่วนต้น
มะเร็งในกระเพาะและในหลอดอาหาร น้ำต้มสกัดการย่อยอาหารดีขึ้น
เห็ดหัวลิงแห้งบำบัดอาการอ่อนเพลีย อ่อนล้าที่เกิดจากการวิตกกังวล สาร erinaines E.F และ G กระตุ้นส่วนประกอบของการเติบโตของเซลล์ประสาท
เห็ดยานางิ |
- เห็ดยานาหงิ ขับปัสสาวะ หดหู่ห่อเหี่ยว ลดหงุดหงิด
ม้ามแข็งแรง และหยุดการถ่ายท้อง
เห็ดตีนแรด |
- เห็ดตีนแรดหรือเห็ดจั่น ยับยั้งเซลล์มะเร็ง ดูแลระบบการไหลเวียนของโลหิต
ลดอาการขับเหงื่อที่มากเกินไปจากการใช้ยา ฟื้นฟูพลังบรรเทาอาการกระเพาะอักเสบ
เห็ดขอนขาว |
- เห็ดในกลุ่มเห็ดขอนขาวเห็ดลมหรือเห็ดกระด้าง ยับยั้งการเติบโตเซลล์มะเร็ง กรด eburicoic ที่สามารถใช้สังเคราะห์สารประกอบเสตรียลอยด์
ที่มีบทบาทในการควบคุมร่างกายคนเรา
เห็ดแครง |
- เห็ดแครง แก้ระดูขาวหรือตกขาว
ยับยั้งอัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง
เห็ดถั่ว |
- เห็ดถั่วหรือเห็ดหมึก
เห็ดขี้ม้า เห็ดโคนน้อย ย่อยอาหารและลดเสมหะ พอกทาบรรเทาอาการปวด
ยับยั้งเซลล์มะเร็ง
เห็ดตับเต่า |
- เห็ดตับเต่า ทรงกลมสีน้ำตาลดำ แก้ไข้พิษกาฬ แก้ไข้ตักศิลา สีดำ หรือขาวนวล บำรุงร่างกาย กระจายโลหิต บรรเทาอาการปวดชาตามแขนขา ตามกระดูก และเส้นเอ็น
อาการระดูขาวหรือมุตกิดได้ หยุดการเติบโตและต่อต้านเนื้อร้าย
เห็ดระโงก |
- เห็ดระโงก หยุดยั้งการเติบโตของเนื้อร้าย
เห็ดขมิ้น |
- เห็ดขมิ้น ป้องกันโรคตาอักเสบอย่างรุนแรง บอดยามค่ำคืน
ผิวหนังแห้ง ช่วยให้ผิวหนังเปล่งปลั่ง เยื่อบุเมือกในการหลั่งสารต่าง ๆ อย่างปกติ
ยับยั้งการติดโรคของทางเดินหายใจ ยับยั้งการเติบโตของเนื้อร้าย
เห็ดหล่ม |
- เห็ดหล่มหรือเห็ดไคล รักษาโรคตาเพลีย ตาอ่อนล้า ขับความร้อนออกจากตับ
กระจายพลังงานส่วนเกิน ระบบการไหลเวียนต่าง ๆ ของสตรี ระวังไม่กินมากจนเกินไป
ชาวจีนกินเห็ดนี้ร่วมกับขิง ยับยั้งการเติบโตของเนื้อร้าย
เห็ดแดง |
- เห็ดแดง ยับยั้งเนื้อร้าย บรรเทาอาการปวดขา
ปวดเอ็นและกระดูก
เห็ดโคน |
- เห็ดโคน
เห็ดจอมปลวก บำรุงสมอง ช่วยท้องและกระเพาะแข็งแรง
จิตใจโปร่งใส รักษาโรคริดสีดวงทวาร บำรุงร่างกาย ทำให้แช่มชื่น กระจายโลหิต
เห็ดกระถินพิมาน |
- เห็ดกระถินพิมาน ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ บำบัดอาการปวดหูและเริม
งูสวัด ไฟลามทุ่ง ดับพิษฝี แก้อักเสบ แก้พิษกาฬ แก้พิษงู
เห็ดกระโดน |
- เห็ดกระโดน
เห็ดจิก เห็ดตีนตุ๊กแก ต่อต้านมะเร็งได้
เห็ดข่า |
- เห็ดข่า แก้สะอึก แก้ปวดหัว แก้ลมจุกเสียด บำรุงธาตุ
เห็ดเผาะ |
- เห็ดเผาะ เห็ดหนัง หยุดการไหลของเลือด สมานแผล ลดอาการบวม ลดอาการคันนิ้วมือนิ้วเท้า ลดไข้อาการร้อนใน
เห็ดงูเห่า |
- เห็ดงูเห่า แก้พิษไข้กาฬ ดับพิษร้อน
เห็ดไผ่ |
เห็ดจาวมะพร้าว |
- เห็ดไผ่ ระงับประสาท แก้นอน
ไม่หลับ
แก้ร้อนรุ่มกระสับกระส่าย
- เห็ดจาวมะพร้าว บำรุงร่างกาย กระจายโลหิต
เห็ดไม้แดง |
- เห็ดไม้แดง แก้ไข้พิษกาฬ แก้พิษฝี ดับพิษร้อน แก้พิษ
แก้อักเสบ แก้ไข้รากสาด
เห็ดร่างแห |
- เห็ดร่างแห
เห็ดระย้า แก้ไข้พิษ ถอนพิษกาฬ ฆ่าพยาธิภายนอก
ทำยารมให้หมดสติ แก้นอนไม่หลับ เป็นยาพิษ เพิ่มพลังชีวิต พลังความเป็นหนุ่มสาว
รักษาอาการอักเสบของลำไส้ตอนล่าง โรคบิด ป้องกันให้อาหารเสียช้าลง
ยับยั้งการเติบโตของเนื้อร้าย ดอกแห้งแช่ในแอลกอฮอล์ 70% แก้โรคเชื้อราตามง่ามเท้า
เห็ดถั่งเช่า |
- เห็ดถั่งเช่า บำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลีย โลหิตจาง
แก้ไอละลายเสมหะ หอบหืด ไอเรื้อรัง โรคจู๋และเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เข่าอ่อน
เอวอ่อน เหมาะสำหรับบำรุงกำลังหลังการฟื้นไข้ ขยายหลอดเลือด
สารสกัดที่เป็นผลึกสีเหลืองอ่อน สามารถยับยั้งแบคทีเรียได้หลายชนิด
เรียบเรียงโดย : บ้านเห็ดรังสิต 4/9/2556
ที่มา :
ดำเกิง ป้องพาล.เอกสารประกอบคำบรรยายวิชา
พส.413 "การผลิตเห็ด(Mushroom Production). สาขาพืชผัก ภาควิชาพืชสวน คณะผลิตกรรมการเกษตร
มหาวิทยาลัยแม่โจ้.เชียงใหม่
นางสาวยุวศรี ต่ายคำ .เกล็ดความรู้เรื่องเห็ด.สสวท, http://biology.ipst.ac.th/index.php/about-the-year-2555/320-knowledge-about-mushrooms.html
มูลนิธิหมอชาวบ้าน,
เห็ด คุณค่าทางอาหาร, http://www.doctor.or.th
ประโยชน์ของการบริโภคเห็ด, www.ist.cmu.ac.th
สรรพคุณทางยาของเห็ดชนิดต่างๆ,
สมุนไพรดอทคอม, http://www.samunpri.com/?p=4762
ภาพ : บทความอ้างอิง, Internet
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น